 |
 |
 |
 |
 |
กรุงเทพ – โคลอมโบ – ดัมบุลลา – วัดถ้ำดัมบุลลา – สิกิริยา |
|
 |
 |
 |
 |
|
|
06.00 น. |
คณะพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่องทางเข้าที่ 8 แถว S สายการบินศรีลังกัน แอร์ไลน์เจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ คอยให้การเช็คเอกสารและสัมภาระ |
|
09.00 น. |
ออกเดินทางออกจากกรุงเทพฯ โดยสายการบินศรีลังกัน แอร์ไลน์เที่ยวบินที่ UL 403 |
|
11.00 น. |
เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติบันดารานายเก (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 1.30 ชั่วโมง) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองแล้วนำท่านออกเดินทางสู่ ดัมบุลลา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) |
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1) |
|
บ่าย |
นำท่าน ชม วัดถ้ำดัมบุลลา หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดทองคำแห่งดัมบุลลา วัดพุทธที่สำคัญแห่งหนึ่งของศรีลังกา ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ บนเขาที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 300 เมตร ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1991 เป็นวัดถ้ำที่ใหญ่ที่สุดและมีการทำนุบำรุงไว้อยู่ในสภาพดีที่สุดในศรีลังกา ประกอบด้วยถ้ำ 5 ถ้ำ แต่ละถ้ำมีขนาดไม่เท่ากัน ถ้ำเทวราชาเป็นถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดในจำนวน 5 ถ้ำ มีพระพุทธรูปปางปรินิพพานขนาดใหญ่แกะสลักจากหินอ่อนยาว 49 เมตร ถ้ำมหาราชา เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญที่สุด ภายในมีพระพุทธรูปและประติมากรรมจำนวนมาก ถ้ำมหาอลุตมีพระนอนขนาดเกือบ 10 เมตรประดิษฐานอยู่ ถ้ำภัคชิมามีขนาดเล็กที่สุดแต่มีภาพจิตรกรรมเต็มไปทั่วพื้นที่เพดานถ้ำ และถ้ำเทวนะอลุต ซึ่งเป็นถ้ำที่สร้างขึ้นหลังสุด ภายในมีพระนอนขนาดใหญ่ |
|
เย็น |
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (2) |
|
ค่ำ |
พักที่ Sigiriana Resort by Thilanka หรือเทียบเท่า |
| |
| |
|
|
| |
 |
ภูเขาสิกิริยา – สวนเครื่องเทศ – วัดถ้ำอาลุวิหาร – แคนดี้ – ชมระบำพื้นเมืองแคนเดี้ยน |
|
|
| |
|
|
|
|
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (3) |
|
|
นำท่านขึ้นชม ภูเขาสิกิริยา หรือที่เรียกอีกชื่อว่า ภูเขาสิงโต Lion Rock เนื่องจากรูปทรงของภูเขามีรูปร่างคล้ายสิงโตหมอบ และชาวศรีลังกามักนิยามภูเขาลูกนี้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก มีความสูงราว 200 เมตร บนยอดเขาเคยเป็นที่ตั้งของพระราชวังซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น ภูเขาแห่งนี้ถูกทิ้งร้างเอาไว้นานหลายร้อยปี จนกระทั่งปี 1853 มีผู้สำรวจและพบภาพจิตรกรรมบนผนังมากมาย รัฐบาลศรีลังกาจึงเข้าไปทำการอนุรักษ์ ระหว่างทางการเดินขึ้นภูเขาที่มีลักษณะคล้ายบันไดเวียนกว่า 2,000 ขั้นจะมีหลืบถ้ำที่มีภาพเขียนสีเฟรสโก (การวาดภาพบนปูนปลาสเตอร์เปียก) ของนางอัปสรที่มีอายุมากกว่า 1,500 ปี บริเวณทางขึ้นสู่ยอดสูงสุดของภูเขาสิกิริยามีรูปปั้นเท้าของสิงโตขนาดใหญ่ 2 ข้างขนาบบันไดทางขึ้นไปสู่บริเวณพระราชวังและสระน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่าเป็นที่สรงน้ำเล่นของพระเจ้ากัสสปะผู้สร้างพระราชวังบนภูเขาแห่งนี้ นำท่านออกเดินทางสู่เมืองแคนดี้ (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) |
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4) |
|
|
ระหว่างทางสู่เมืองแคนดี้ แวะชม สวนเครื่องเทศ ที่เมืองมาตาเล ซึ่งเป็นสถานที่ปลูกสมุนไพรค่างๆ ที่ใช้ทำเครื่องเทศที่ดีที่สุดของศรีลังกา ท่านจะได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างของเครื่องเทศแต่ละชนิด การเพาะปลูกและแปรรูป ตลอดจนการจัดการอบรมแก่กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและจำหน่ายได้ในราคายุติธรรม ท่านสามารถเลือกซื้อเครื่องเทศต่างๆ เพื่อใช้ในการประกอบอาหาร หรือแม้แต่การใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และความงาม หลังจากนั้นนำท่านชม วัดถ้ำอาลุวิหาร วัดพุทธศักดิ์สิทธิ์ในเมืองมาตาเลซึ่งมีความหมายในภาษาบาลีว่าวัดแห่งแสงสว่าง ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขา มีประวัติย้อนกลับไปจนถึงศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล เป็นสถานที่ที่มีการจารึกพระไตรปิฎกภาษาบาลีลงบนใบลานเป็นครั้งแรกในโลก และในบริเวณใกล้เคียงวัดมีอารามหลายแห่งที่มีภาพเขียนสีเฟรสโกอีกด้วย เมื่อเดินทางถึงแคนดี้ นำท่าน ชมระบำพื้นเมืองแคนเดี้ยน ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมแขนงหนึ่งของชาวศรีลังกา ซึ่งเป็นการเต้นระบำที่ถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยนำการเต้นรำที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมท้องถิ่นและการแต่งกายที่มีเอกลักษณ์มาผสานกับการร่ายรำประกอบเสียงเครื่องดนตรี |
|
เย็น |
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (5) |
|
ค่ำ |
พักที่ Hotel Serene Kandy หรือเทียบเท่า |
| |
| |
|
|
| |
 |
วัดพระเขี้ยวแก้ว – ชมสินค้าพื้นเมือง – โรงงานชาเกอรากามา |
|
|
| |
|
|
|
|
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (6) |
|
|
นำท่านสู่ วัดดาลาดา มาลิกาวา หรือ วัดพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบแคนดี้ ให้ท่านได้นมัสการ พระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งเป็นพระทันตธาตุเบื้องซ้ายขององค์พระพุทธเจ้าที่วัดพระเขี้ยวแก้ว องค์พระธาตุนั้นถูกเก็บรักษาไว้ในผอบทองคำรูปทรงคล้ายเจดีย์ โดยมีผอบทองคำครอบผอบที่บรรจุพระธาตุอีก 6 ชั้น และมีการรอารักขาอย่างแน่นหนาด้วยกระจกกันกระสุน แม้จะมิได้เห็นองค์พระธาตุที่แท้จริง แต่ชาวพุทธที่ได้มานมัสการพระบรมธาตุนี้ด้วยความศรัทธาเชื่อว่าการได้มาสักการะพระบรมธาตุนั้นจะเกิดสิริมงคลแต่ตนเอง ตลอดจนช่วยปัดเป่าบรรเทาทุกข์ภัยต่างๆ ได้ จากนั้นนำท่านชม สินค้าพื้นเมืองของชาวศรีลังกา ไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายงานแกะสลัก ร้านผ้าไหมและผ้าบาติก และร้านเครื่องประดับที่ทำจากอัญมณีประเภทต่างๆ |
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7) |
|
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่ โรงงานชาเกอรากามา หนึ่งในโรงงานผลิตชาที่เก่าแก่ที่สุดและผลิตชาที่ดีที่สุดของศรีลังกาที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกในนามของ ชาซีลอน (Ceylon Tea) โรงงานชาเกอรากามานั้นก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1903 ผลิตชาหลากหลายรูปแบบเพื่อความสะดวกสบายและตอบสนองต่อรสนิยมที่หลากหลายของผู้บริโภค เพียงแค่ก้าวเข้าสู่บริเวณโรงงานท่านก็จะได้กลิ่นหอมอบอวลของใบชาหลากหลายสายพันธุ์ ให้ท่านได้เห็นกระบวนการจัดการใบชาที่เก็บมาจากไร่ด้วยแรงงานคน ผ่านขั้นตอนการคัดแยก การตากหรือการอบแห้ง การแต่งกลิ่นและรสชาติ เพื่อให้ได้ใบชาที่มีกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างกันตามความชอบของผู้บริโภค ให้ท่านได้ลิ้มลองรสชาติของชาซีลอนแท้ และเลือกซื้อเพื่อเป็นของฝาก จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ตัวเมืองแคนดี้ |
|
เย็น |
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (8) |
|
ค่ำ |
พักที่ Hotel Serene Kandy หรือเทียบเท่า |
| |
| |
|
|
| |
 |
ค็อกกาลา – ป้อมกอลล์ – ชมการตกปลาบนเสาไม้ |
|
|
| |
|
|
|
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (9) |
|
|
นำท่านออกเดินทางไกลสู่ เมืองค็อกกาลา เมืองชายหาดเล็กๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของศรีลังกา ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลเพียง 3 เมตร มีแนวปะการังล้อมรอบอยู่ด้านหนึ่ง และทะเลสาบค็อกกาลาล้อมอยู่อีกด้านหนึ่ง และเป็นส่วนหนึ่งของศรีลังกาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2004 โดยมีความสูงของคลื่นที่เข้าปะทะสูงสุดถึง 9 เมตร
(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) |
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (10) |
|
บ่าย |
นำท่านชม ป้อมกอลล์ ป้อมปราการสไตล์ยุโรปที่มีประวัติน่าสนใจด้วยเป็นมรดกทางโบราณคดีและสถาปัตยกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของศรีลังกา ตั้งอยู่บนแหลมกอลล์ สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1588 โดยชาวโปรตุเกส จนกระทั่งช่วงศตวรรษที่ 17 ศรีลังกาตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวดัตช์ ป้อมแห่งนี้ก็ถูกเรียกว่าป้อมดัตช์และป้อมกอลล์ และยังเป็นมรดกโลกอีกด้วย จากนั้นนำท่านชมกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงของกอลล์ ได้แก่ การตกปลาบนเสาไม้ (Stilt Fishing) ซึ่งเป็นวิธีการตกปลาที่มีเฉพาะในศรีลังกาเท่านั้น โดยชาวประมงจะทรงตัวอยู่บนเสาไม้ที่ปักเป็นหลักอยู่ใกล้ชายฝั่ง บนเสานั้นใช้ไม้ชิ้นสั้นๆ มาผูกขัดกันไว้เป็นเป็นที่นั่งเล็กๆ ระหว่างตกปลา แล้วปักเสาตกปลาไว้ตามแนวโขดหินหรือปะการังซึ่งเป็นที่หากินของปลาทะเล สูงจากระดับน้ำทะเลราว 1-2 เมตร มือหนึ่งอาจยึดจับเสาไว้เพื่อการทรงตัว อีกมือหนึ่งถือคันเบ็ดตกปลา รอจังหวะที่ปลาว่ายเข้ามาใกล้ๆ เสา โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจับปลาด้วยวิธีนี้คือช่วงเวลาเย็นขณะพระอาทิตย์กำลังจะตก เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ได้ชม |
|
เย็น |
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (11) |
|
ค่ำ |
พักที่ Mandara Resort Mirissa หรือเทียบเท่า |
| |
| |
|
|
| |
 |
โคลอมโบ – จัตุรัสแห่งอิสรภาพ – วัดกัลยาณี – วัดคงคาราม – ศูนย์การค้าโอเดล |
|
|
| |
|
|
|
|
เช้า |
บริการอาหารเช้าแบบกล่อง (12) |
|
|
นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงโคลอมโบ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) นำท่านชม จัตุรัสแห่งอิสรภาพ สัญลักษณ์แห่งความเป็นอิสรภาพของชาวศรีลังกาจากการปกครองของประเทศอังกฤษ จึงนับได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศศรีลังกา สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1948 ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมามีการพัฒนาให้เป็นที่ทำกิจกรรมเพื่อการหย่อนใจของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่งออกกำลังหรือเส้นทางปั่นจักรยาน |
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (13) |
|
บ่าย |
นำท่านเดินสู่ วัดคงคาราม วัดพุทธที่สำคัญและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของศรีลังกา ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเบรา สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยมีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งแบบศรีลังกา อินเดีย ไทย และจีน มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่มากมาย รวมถึงแบบจำลองของพุทธคยาและบุโรพุทโธ และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นใดคือ ต้นศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่ซึ่งนำหน่อจากต้นศรีมหาโพธิ์แห่งเมืองอนุราชปุระมาปลูก เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มาสักการะ ก่อนนำท่านสู่ วัดกัลยาณี วัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ชาวพุทธในศรีลังกาให้ความนับถือและศรัทธา ด้วยเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาที่วัดแห่งนี้ ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมบนผนังที่งดงามมากมาย โดยมีเนื้อหาของภาพเกี่ยวกับพุทธประวัติ เรื่องเล่าจากชาดกและตำนานต่างๆ ที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาในศรีลังกา จากนั้นให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการ ช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าโอเดล หนึ่งในศูนย์การค้าที่ดีที่สุดของโคลอมโบ มีร้านค้าจำหน่ายสินค้าแฟชั่นที่ทันสมัยและกิจกรรมเพื่อความบันเทิงที่หลากหลาย (ไม่มีบริการอาหารเย็น) |
|
21.00 น. |
นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติบันดารานายเก เมืองเนกอมโบ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ประเทศไทย |
| |
|
|
01.15 น. |
เดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินศรีลังกัน แอร์ไลน์เที่ยวบินที่ UL 402 |
|
06.20 น. |
เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ |
| |
สายการบินระดับ 4 ดาวจาก Skytrax โดยมีศูนย์กลางการบินตั้งอยู่ที่กรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา พร้อมน.น.สัมภาระโหลด 30 ก.ก.ต่อท่าน
หรือภูเขาสิงโต Lion Rock เนื่องจากรูปทรงของภูเขามีรูปร่างคล้ายสิงโตหมอบ และชาวศรีลังกามักนิยามภูเขาลูกนี้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก
พระทันตธาตุเบื้องซ้ายขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถูกเก็บรักษาไว้ในผอบทองคำรูปทรงเจดีย์ครอบผอบที่บรรจุพระธาตุอีก 6 ชั้น
หรือที่เรียกกันว่าวัดพระเขี้ยวแก้ว ตั้งอยู่ริมทะเลสาบแคนดี้ เป็นที่เก็บรักษา "พระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว" ที่ชาวพุทธเชื่อว่าการได้มาสักการะจะเกิดสิริมงคลแต่ตนเอง
ป้อมปราการมรดกโลกสไตล์ยุโรป ที่ช่วงศตวรรษที่ 17 ศรีลังกาตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวดัตช์ ถูกเรียกว่าป้อมดัตช์และป้อมกอลล์ 
ที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งแบบศรีลังกา อินเดีย ไทย และจีน และมีต้นศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่ซึ่งนำหน่อจากต้นศรีมหาโพธิ์แห่งเมืองอนุราชปุระมาปลูก
มรดกโลกเมื่อปี 1991 เป็นวัดถ้ำที่ใหญ่ที่สุดและมีการทำนุบำรุงไว้อยู่ในสภาพดีที่สุดในศรีลังกา ประกอบด้วยถ้ำ 5 ถ้ำที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 300 เมตร
จุดชมวาฬสีน้ำเงินและโลมาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือเดือนธันวาคมถึงเมษายน โดยมีสถิติการเห็นวาฬและโลมาค่อนข้างสูง
ที่มีเฉพาะในศรีลังกาเท่านั้น โดยชาวประมงจะทรงตัวอยู่บนเสาไม้ที่ปักเป็นหลักอยู่ใกล้ชายฝั่งแล้วใช้ไม้ชิ้นสั้นๆ มาผูกขัดกันไว้เป็นเป็นที่นั่งเล็กๆ ระหว่างตกปลา
วัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ชาวพุทธในศรีลังกาให้ความนับถือและศรัทธา ด้วยเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาที่วัดแห่งนี้ พร้อมชมจิตรกรรมที่เกี่ยวกับพุทธประวัติ
พืชเศรษฐกิจของศรีลังกาที่ริเริ่มปลูกมาตั้งแต่ยุคอาณานิคม และเริ่มส่งออกชาซีลอนไปยังอังกฤษในปี1873 ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงและแพร่หลายไปทั่วโลก
โรงงานอายุกว่า 100 ปี ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1903 ผลิตชาหลากหลายรูปแบบเพื่อความสะดวกสบายและตอบสนองต่อรสนิยมที่หลากหลายของผู้บริโภค
มรดกทางวัฒนธรรมโดยนำการเต้นรำที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมท้องถิ่นและการแต่งกายที่มีเอกลักษณ์มาผสานกับการร่ายรำประกอบเสียงเครื่องดนตรี
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
